วันศุกร์ที่ 25 ธันวาคม พ.ศ. 2552

กฎหมายปฏิรูประบบสาธารณสุขUSA ผ่านวุฒิสภาสหรัฐ

วุฒิสภาสหรัฐโหวตผ่านกฎหมายปฏิรูปสาธารณสุข


บารัค โอบามา

"โอ บามา" ได้รับชัยครั้งใหญ่อีกครั้ง หลังวุฒิสภาโหวตผ่าน กม.ปฏิรูประบบสาธารณสุขด้วยคะแนน 100 เสียง หลังต้องยืดเยื้อมานาน ที่มีมูลค่า 2.5 ล้านล้านดอลลาร์สหรัฐ ...

เมื่อวันพฤหัสบดีที่ 24 ธ.ค. ประธานาธิบดีบารัค โอบามา ผู้นำสหรัฐ ถือว่าได้รับชัยชนะครั้งใหญ่ทางการเมือง หลังวุฒิสภาเสียงส่วนใหญ่โหวตอนุมัติผ่านร่างกฎหมายปฏิรูประบบสาธารณสุข ทุ่มงบประมาณ 871,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐ ยกเครื่องระบบสาธารณสุข เพื่อขยายผลประโยชน์ครอบคลุมสิทธิการรักษาพยาบาลให้แก่ชาวอเมริกันอีกกว่า 31 ล้านคน จาก 36 ล้านคน ที่ยังตกอยู่ในสภาพความไม่มั่นคงด้านประกันสุขภาพ ขั้นตอนการโหวตเริ่มต้นเมื่อช่วงเช้า 07.00 น. วันพฤหัสบดี หรือตรงกับเวลาช่วงค่ำ19.00 น. วันเดียวกัน (ตามเวลาประเทศไทย) คะแนนเสียงในวุฒิสภา100 คน ฝ่ายเดโมคแครตครอง 58 เสียง พันธมิตรอีก 2 เสียง รวม 60 เสียง คาดว่าลงคะแนนสนับสนุนกฎหมายฉบับนี้ทั้งหมด ส่วนพรรครีพับลิกันครองเก้าอี้ในวุฒิสภาอีก 40 เสียง

ก่อนหน้านี้ ความพยายามผลักดันกฎหมายปฏิรูประบบสาธารณสุขติดขัดยืดเยื้อมาตลอดหลายเดือน เพราะฝ่ายรีพับลิกันพยายามขัดขวางคัดค้าน ต้้องมีการเจรจากันหลายครั้งหลายครา จนกระทั่งสภาชิกสภาผู้แทนราษฎรโหวตผ่านร่างกฏหมายฉบับนี้เมื่อวันที่ 7 พ.ย.ที่ผ่านมา หลังการลงมติผ่านร่างกฎหมายปฏิรูประบบสาธารณสุขฉบับนี้แล้ว ขั้นตอนต่อไปคือประธานาธิบดีโอบามาจะลงนามรับรองกฎหมายและดำเนินการต่างๆให้ แล้วเสร็จก่อนถึงการแถลงผลงานและนโยบายประจำปีของผู้นำสหรัฐ หรือ "สเตรท ออฟ ดิ ยูเนียน" ในช่วงปลายเดือน ม.ค.ปีหน้า ซึ่งนโยบายปฏิรูประบบสาธารณสุขถือเป็นนโยบายในประเทศที่สำคัญที่สุดของ ประธานาธิบดีโอบามาที่ใช้หาเสียง ภายใต้กฎหมายปฏิรูประบบสาธารณสุขฉบับใหม่ จะนำไปสู่ความเปลี่ยนแปลงของระบบสาธารณสุขของสหรัฐ มูลค่า 2.5 ล้านล้านดอลลาร์สหรัฐ

ทั้งนี้ ระบบสาธารณสุขของสหรัฐก่อตั้งมาตั้งแต่ปี 2508 มุ่งช่วยเหลือดูแลกลุ่มคนสูงอายุ การปฏิรูประบบสาธารณสุขครั้งนี้ จะขยายครอบคลุมถึงชาวอเมริกันอีกราว 31 ล้านคน ทั้งในเรื่องเกี่ยวกับภาษี การทำแท้งและระบบประกันสุขภาพ รวมชาวอเมริกันจะได้รับประโยชน์มากถึง 94 เปอร์เซ็นต์ อย่างไรก็ตาม กว่าที่กฎหมายปฏิรูปสาธารณสุขฉบับนี้จะเริ่มบังคับใช้ได้คงต้องรอถึงปี 2557 แต่บริษัทประกันภัยหลายแห่งเริ่มปรับกลยุทธเตรียมรับข้อกฎหมายใหม่แล้ว.
ไทยรัฐออนไลน์

* โดย ทีมข่าวต่างประเทศ
* 25 ธันวาคม 2552, 08:45 น.

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น